ทิศทางลม กับการสร้างบ้าน
ก่อนการสร้างบ้าน🏠 สิ่งหนึ่งที่ควรรู้และทำความเข้าใจ คือ การวางแผนผังของทิศบ้านให้เหมาะสมกับทิศทางลม แดด และฝน ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตร้อน มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าวเกือบตลอดทั้งปีและมีทิศทางลมที่ไม่เหมือนกันในแต่ละฤดู โดยแบ่งออกเป็น 3 ฤดู ดังนี้ | ||||||||||||
1. ฤดูร้อน☀️ (ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม) อากาศร้อน จะมีอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 35-39.9 อาศาเซลเซียส อากาศร้อนจัด จะมีอุณหภูมิสูงตั้งแต่ 40 องศาเซลเซียสขึ้นไป ทิศทางลมจะพัดมาทางทิศใต้ ถือว่าเป็นลมที่ดี ช่วยลดความร้อนของอากาศลงได้ | ||||||||||||
2. ฤดูฝน☔️ (ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษจิกายน) โดยทั่วไปแล้วจะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนไม่ช้าก็เร็วกว่ากำหนดประมาณ 1-2 สัปดาห์ เมื่อมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ได้พัดผ่านปกคลุมประเทศไทย รวมถึงมีร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านทำให้เริ่มมีฝนตกชุกทั่วทั้งประเทศ ทิศทางลมจะพัดมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ลมนี้เรียกว่า “ลมมรสุม” | ||||||||||||
3. ฤดูหนาว⛄️ (ช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์) ในช่วงราว ๆ 1-2 สัปดาห์แรกก่อนเปลี่ยนฤดูกาล จากฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาวสภาพอากาศจะมีความแปรปรวนค่อนข้างสูงและเกิดขึ้นไม่แน่นอน ทำให้ถึงแม้ว่าจะเริ่มมีอากาศเย็นแล้ว แต่ก็ยังคงมีฝนตกประปรายอยู่ ซึ่งเกณฑ์ในการแบ่งอุณหภูมิต่ำสุดของลักษณะสภาพอากาศในฤดูหนาวแบ่งเป็นอากาศหนาวจัด อากาศหนาวและอากาศเย็นทิศทางลมจะพัดมาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือเรียกว่า “ลมหนาว” | ||||||||||||
👉ดังนั้นจึงควรวางด้านยาวของบ้านหันเข้าหาทิศทางลมให้ลมธรรมชาติพัดเข้าสู่ตัวบ้านเพื่อระบายอากาศและความร้อนออกไปให้ได้มากที่สุด การวางตำแหน่งหน้าต่างและประตูเพื่อเป็นช่องทางให้ลมเข้าและออกต้องดูทิศทางของลมเป็นหลัก และตำแหน่งของหน้าต่างที่เยื้องกันจะช่วยบังคับทิศทางให้ลมไหลผ่านห้องต่างๆ ได้ทั่วถึงทั้งห้อง ทำให้ภายในบ้านเย็นสบายและช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าสำหรับเครื่องปรับอากาศได้ นอกจากนี้ ในส่วนของห้องครัวแบบไทยที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิด เช่น กาต้มน้ำ ตู้เย็น รวมถึงเตาหุงต้ม ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดความร้อนและถ่ายเทความร้อนสู่พื้นที่ข้างเคียงได้ ควรวางห้องครัวแยกออกจากตัวบ้านหรือหากต้องอยู่ภายในบ้านก็ควรจะมีการระบายอากาศที่ดีเพื่อลดความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวบ้านส่วนอื่นอีกทางหนึ่ง | ||||||||||||
⚠️ทั้งนี้ก่อนการออกแบบบ้านอย่าลืมเช็คทิศหน้าบ้านของตนเองก่อนเสมอ เพื่อออกแบบบ้านให้เหมาะสม กับทิศทางของลม | ||||||||||||
✅ข้อดีของบ้านที่ตั้งรับทิศทางลมได้ถูกต้อง | ||||||||||||
– ประหยัดพลังงาน เนื่องจากตัวบ้านถ่ายเทอากาศได้สะดวก ไม่ร้อนอบอ้าว และเย็นสบาย | ||||||||||||
– ยืดอายุการใช้งาน เนื่องจากลดแรงปะทะโดยตรงกับสภาพอากาศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแดด ลม และฝน | ||||||||||||
– สนุกกับการจัดการพื้นที่ใช้สอยต่าง ๆ ภายในบ้านให้เข้ากับทิศทางลม เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน โดยใช้ประโยชน์จากแสงแดดและลมจากธรรมชาติ | ||||||||||||
❌ข้อเสียของบ้านที่ตั้งรับทิศทางลมไม่ถูกต้อง | ||||||||||||
– หากตั้งทิศทางของบ้านในทิศทางรับกับลมมรสุมหรือได้รับอิทธิพลจากลมมรสุม เมื่อเกิดพายุฝนลมฟ้ากระหน่ำ จะทำให้บ้านเกิดความเสียหายได้ เนื่องจากเป็นสุดเสี่ยงจากการพัดผ่านของกระแสลมและฝนโดยตรง |
Related Posts
September 26, 2024
•การเจาะผนัง •งานต่อเติม•ตกแต่งบิ้วอิน ผนังสำเร็จรูปต่อเติมได้หรือไม่ ?
ผนังสำเร็จรูปทำได้หรือไม่ ? •การเจาะผนัง •งานต่อเติม•ตกแต่งบิ้วอิน ผนังสำเร็จรูปต่อเติมได้หรือไม่ ? ผนังสำเร็จรูปทำได้หรือไม่ ? "ลูกค้าหลายท่านอาจจะเคยได้ยินว่า บ้านผนังสำเร็จรูปมีข้อจำกัดในเรื่องการต่อเติม แต่ทราบหรือไม่ว่าข้อจำกัดต่างๆเหล่านั้นสามารถดำเนินการได้อย่างไร หรือมีข้อจำกัดอะไรบ้าง แต่บ้านผนังเสร็จรูปไม่ได้มีข้อจำกัดวุ่นวายอย่างที่ทุกท่านคิด อาทิเช่น การเจาะช่องเพื่อเพิ่มประตูหน้าต่างด้วยตนเองไม่สามาถทำได้…
September 12, 2024
ผนังบ้านสำเร็จรูป VS ผนังบ้านก่ออิฐ แบบไหนดีกว่ากัน
ผนังบ้านสำเร็จรูป VS ผนังบ้านก่ออิฐ แบบไหนดีกว่ากัน #ความแข็งแรงหากเปรียบเทียบกันจริงๆ ผนัง Precast มีความแข็งแรงกว่า ผนังก่ออิฐฉาบปูน แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการก่ออิฐมอญแดงหรือมวลเบา เนื่องจากว่าผนัง Precast นี้ถูกออกแบบมาให้สามารถรับน้ำหนักตัวบ้านได้ แทนที่เสาบ้านนั่นเอง…
Leave a Reply